วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หน้าปกหนังสือสวยๆ ทำได้ด้วยเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์


 

งานพิมพ์หนังสือโดยเฉพาะหนังสือที่มีการสั่งทำขึ้นมานำไปขาย ไม่ใช่หนังสือแจกฟรี จะนิยมใช้เทคนิคหลังการพิมพ์มาใช้เพื่อเพิ่มความสวมงานให้กับหนังสือ โดยเฉพาะในส่วนของหน้าปกหนังสือ ในการรับพิมพ์หนังสือนั้น ผู้ที่รับพิมพ์จะมีขั้นตอนเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์ไว้ให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย แต่วิธีที่นิยมใช้กัน ได้แก่
1.การเคลือบมีทั้งแบบเงาและแบบด้าน
2.ปั๊มนูน นิยมใช้กับโลโก้ชื่อหนังสือ หรือรูป
3.ปั๊มฟอยล์ทอง/เงิน
4.Spot UV หรือเรียกอีกอย่างว่าการเคลือบเฉพาะจุด
5.ไดคัท สามารถตัดเป็นงานสำเร็จตามรูปแบบที่ต้องการได้
ในการรับพิมพ์หนังสือนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วหน้าปกจะใช้กระดาษที่มีความหนามากกว่าเนื้อใน เพื่อความทน ซึ่งนอกจากกระดาษขาวที่ใช้กันอยู่ทั่วไปแล้ว ยังสามารถเลือกใช้กระดาษพิเศษอื่นๆได้ เช่น กระดาษที่ลายหรือมีสีในตัวกระดาษเอง และหากต้องการงานพิมพ์หนังสือแบบปกแข็งมากๆ ก็จะนิยมทำเป็นแบบจั่วปัง คือกระดาษแข็งสีน้ำตาล

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ระบบสีของงานพิมพ์การ์ดแต่งงาน


 


งานพิมพ์โดยทั่วไปนั้นจะแยกออกเป็นระบบงานพิมพ์ 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ งานพิมพ์ระบบดิจิตอลและออฟเซท ซึ่งทั้งในการรับพิมพ์การ์ดแต่งงานสามารถพิมพ์ได้ทั้ง 2 ระบบ ซึ่งจะต้องดูว่าแบบไหนเหมาะสมกว่ากันนั้นเอง งานพิมพ์ดิจิตอลเหมาะสำหรับงานพิมพ์การ์ดแต่งงานที่สั่งทำจำนวนไม่มาก ส่วนออฟเซทต้องทำในจำนวนที่มากถึงจะคุ้ม

ระบบสีสำหรับงานพิมพ์ระบบดิจิตอลนั้นหากพิมพ์สีดำเพียงสีเดียว เรียกว่าพิมพ์ 1 สี แต่ถ้าหากว่าเป็นสีอื่นๆที่นอกเหนือจากสีดำนับเป็นงานพิมพ์ 4 สี เช่น การ์ดพิมพ์แค่สองสีได้แก่สี แดงและน้ำเงิน ก็ถือเป็นงานพิมพ์ 4 สี ซึ่งจะไม่มีสีขาวหรือไม่สามารถพิมพ์สีขาวได้นั้นเอง สีขาวนับเป็นสีพิเศษ เช่นเดียวกับสีทอง สีเงิน เพราะจะมีแค่ค่สีหลัก CMYK แดง เหลือง ดำ น้ำเงิน หากเป็นสีอื่นๆก็คือการผสมสีกันนั้นเอง

ส่วนงานพิมพ์ระบบออฟเซทนั้น หากในชิ้นงานมีแค่ 2 สี เช่น ดำและ ถือเป็นงานพิมพ์ 2 สี ซึ่งงานพิมพ์สองสีในระบบออฟเซทนั้นราคาจะถูกกว่างานพิมพ์ 4 สี และระบบการพิมพ์แบบออฟเซทนั้นถึงแม้ว่าในปัจจุบันความแตกต่างในเรื่องสีเมื่อเทียบระหว่างงานพิมพ์ดิจิตอลกับออฟเซทจะไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่เมื่อเปรียญเทียบกันดูงานพิมพ์ออฟเซทสีจะแน่นกว่าและสม่ำเสมอกันมากกว่า แต่ถ้าหากถามว่าในการรับพิมพ์การ์ดแต่งงานนั้น นิยมเลือกพิมพ์ระบบไหนมากกว่ากันต้องบอกว่าเป็นระบบดิจิตอลเพราะงานพิมพ์ดิจิตอลไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนที่ต้องการสั่งทำ หรือไม่มีขั้นต่ำในการสั่งทำนั้นเอง เพราะการรับพิมพ์การ์ดแต่งงานส่วนใหญ่นั้นโดยปกติก็จะมีการสั่งทำกันอยู่ที่ประมาณ 400 – 500 ใบ หรือไม่เกิน 1,000 ใบ