ข้อแนะนำสำหรับการออกแบบการ์ดแต่งงาน

งานพิมพ์การ์ดแต่งงานจะสวยหรือไม่สวยก็ขึ้นอยู่การออกแบบงานด้วย ไม่ใช่ว่าจะขึ้นอยู่กับทางโรงพิมพ์เพียงอย่างเดียว เพราะบางทีสีในจอคอมพิวเตอร์กับสีที่ได้จากเครื่องพิมพ์เวลาพิมพ์ออกมาอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ ดังนั้นเราจึงมีข้อแนะนำในการออกแบบงานพิมพ์การ์ดแต่งงานเพื่อที่เวลาสั่งพิมพ์แล้ว งานที่ได้ออกมาจะได้สวยตามที่ตั้งใจไว้

1.การ์ดแต่งงานแบบพับ โดยเฉพาะแบบที่ใช้กระดาษหนามากๆในการทำ สีพื้นของการ์ดแต่งงานไม่ความจะเป็นสีเข้มเพราะว่าเวลาพับ ตรงเส้นพับจะเป็นรอยแตกทำให้งานไม่สวย

2.ไฟล์งานที่จะนำมาใช้ในการพิมพ์ ควรตั้งค่าสีเป็นแบบ CMYK เพื่อรองรับระบบของเครื่องพิมพ์

3.ไม่สวยจะใส่เส้นขอบหรือเป็นกรอบ เพราะว่าเวลาตัดการ์ดแต่งงานออกมาเป็นใบๆ ถ้าหากว่าตัดเบี้ยวจะทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าตัดเบี้ยว

4.การ์ดแต่งงานที่ทำพื้นหลังเป็นสีเดียวหรือไล่ระดับสี เช่น โทนสี น้ำตาล เขียวเข้ม โดยเฉพาะถ้าเป็นงานพิมพ์ดิจิตอล สีจะไม่แน่นเท่ากับงานพิมพ์ระบบออฟเซต ดังนั้น จะทำให้เห็นเป็นรอยด่าง ไม่สวย ถ้าเลี่ยงได้ควรเลือกใช้สีโทนอื่น

5.เวลาออกแบบงานพิมพ์การ์ดแต่งงาน ควรจะทำขอบหรือขยายขอบ เพื่อสำหรับเผื่อเวลาลงมาร์กตัดงาน จะได้ไม่โดยส่วนสำคัญ เช่น ข้อความต่างๆ

6.เวลาทำไฟล์งานเอง แล้วส่งไฟล์งานให้กับทางร้านที่รับพิมพ์การ์ดแต่งงาน ควรจะทำการครีเอทฟ้อนท์ตัวหนังสือ ให้เรียบร้อย เพราะว่าถ้าหากไม่ครีเอทฟ้อนท์ เวลาทางร้านที่รับพิมพ์การ์ดแต่งงานนำไฟล์งานไปใช้ต่อ เช่ นเลย์งานลงมาร์กำหรับตัด ถ้าหากทางร้านไม่มีฟ้อนท์ตัวหนังสือที่เราทำจะทำให้ฟ้อนท์เด้ง เสียเวลาต้องมาทำนั่งหาฟ้อนท์ตัวหนังสือกันใหม่อีก ทำให้เสียเวลา

ขนาดของงานพิมพ์โบรชัวร์ที่นิยมทำกัน

ขนาดของงานพิมพ์โบรชัวร์มีค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับการออกแบบและความต้องการของผู้สั่งทำ ดังนั้นจะเห็นว่าโบรชัวร์ที่พบเห็นอยู่ทั่วไปนั้น มีหลายขนาดแต่ขนาดงานที่นิยมสั่งทำ และเป็นขนาดที่ผู้รับพิมพ์โบรชัวร์ตั้งเป็นขนาดมาตราเลย ก็จะมี

1.งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาดสำเร็จ A-3

2.งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาดสำเร็จ A-4

3.งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาดสำเร็จ A-5

4.งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาดสำเร็จ A-6

5.ขนาดตามความต้องการของลูกค้า

ซึ่งขนาดโบรชัวร์นั้น ส่วนใหญ่จะทำออกมาเป็นขนาดเล็กมากว่าขนาดใหญ่ เพราะสะดวกในการใช้งาน และค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ในการรับพิมพ์โบรชัวร์นั้นขนาดงาน รายละเอียดงาน จำนวนกับราคาถือว่าเป็นอะไรที่แปรผันตามกัน หรือจะเรียกว่ายิ่งจำนวนเยอะราคาต่อชิ้นก็จะยิ่งถูกลงนั้นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขนาดของงานพิมพ์โบรชัวร์ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเวลานำไปใช้งานด้วย

รายละเอียด ข้อมูลต่างๆที่จำเป็นต้องมีในคูปองชิงโชค

         งานพิมพ์คูปองชิงโชค เป็นงานคูปองเพื่อจับ แจก รางวัล ดังนั้นภายในตัวคูปองนั้นต้องมี เงื่อนไขต่างๆ ที่ระบุเอาไว้ชัดเจน เพื่อผลประโยชน์ของทั้งผู้ให้และผู้รับนั้น ซึ่งก็จะมี

1.ชื่อรางวัลที่ได้ ต้องระบุให้ชัดเจน โดยเฉพาะหากว่าเป็นการจับฉลากรางวัลที่มีรางวัลให้ลุ้นหลายรางวัล ยิ่งต้องมีการระบุรางวัลที่ได้ให้ชัดเจน จะได้ไม่มีปัญหาในการติดต่อรับรางวัลนั้นเอง

2.แบบฟอร์มสำหรับกรอกข้อมูล เพื่อลุ้นรางวัล ปกติก็จะมี

-ชื่อ นามสกุล

-ที่อยู่

-เบอร์ติดต่อ

-อีเมล์

3.เงื่อนไขการชิงโชค เช่น คูปอง 1 ใบ ใช้ได้ 1 สิทธิ์เท่านั้น

4.หลายเลขรันนัมเบอร์ กำกับไว้บนคูปอง เพื่อจะได้ไม่เกินการจับรางวัลซ้ำกัน โดยเฉพาะหากเป็นรางวัลใหญ่ๆ

ในการทำและออกแบบงานพิมพ์คูปองชิงโชคนั้น ควรจะมีกำหนดข้อมูลต่างๆและ เช็คความถูกต้องของข้อความด้วยว่าครบ และถูกต้องหรือเปล่า ใช้ข้อความที่ชัดเจนหรือไม่ จะได้ไม่เกิดปัญหาตามในภายหลัง

การเพิ่มความสวยงามให้กับงานพิมพ์เมนูอาหาร

งานพิมพ์เมนูอาหารเป็นสิ่งที่ใช้ประกอบ และส่งเสริม หรือว่าเป็นจุดขายของอาหารอีกช่องทางหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากว่าพิมพ์สีปกติอย่างเดียวก็อาจจะดูธรรมดาเกินไป ดังนั้นเรามาดูวิธีที่ใช้เพิ่มความสวยงามให้กับงานพิมพ์เมนูอาหาร โดยสิ่งที่กล่าวมาก็คือเทคนิคหลังการพิมพ์นั้นเอง เป็นเทคนิคที่ผู้ที่รับพิมพ์เมนูอาหารหรือผู้ที่รับทำงานพิมพ์ต้องมีอยู่แล้ว ได้แก่

1.การเคลือบเงาและด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบ PVC หรือเคลือบ UV หากเป็นการเคลือบเงาจะช่วยทำให้งานพิมพ์เมนูอาหารดูมันเงาขึ้นกว่าเดิม หากเป็นเคลือบด้านก็จะให้ความรู้สึกด้าน ตรงข้ามกับเงานั้นเอง แต่หากว่าเป็นงานพิมพ์ดิจิตอล สามารถเคลือบ PVC ได้เอย่างเดียวเพราะว่าหากเคลือบ UV ตัวหมึกที่ใช้พิมพ์จะละลาย ซึ่งงานพิมพ์เมนูอาหารส่วนใหญ่จะนิยมทำการเคลือบทั้งเล่ม

2.Spot UV หรือการเคลือบเฉพาะจุด จะทำให้ส่วนที่ทำการ Spot Uv ดูเงาขึ้นและจะนูนขึ้นมาจากพื้นกระดาษที่ใช้พิมพ์เล็กน้อย นิยมทำการ Spot UV ในส่วนของรูปอาหารให้เด่นขึ้นมา

3.ปั๊มนูน/ลึก ส่วนที่ปั๊มจะนูนขึ้นมาจากเนื้อกระดาษเดิม และอีกฝั่งก็จะเป็นรอยปั๊มเช่นกัน นิยมปั๊มนูน/ลึก ในส่วนของโลโก้ และรูปอาหาร

โดยทั้ง 3 วิธีที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์ที่นิยมใช้กับงานพิมพ์เมนูอาหาร ซึ่งทางร้านที่รับพิมพ์เมนูอาหารส่วนใหญ่จะมีเทคนิคพวกนี้พร้อมผลิตอยู่แล้ว

กระดาษที่ใช้ในการทำเมนูอาหาร

 

งานพิมพ์เมนูอาหารส่วนใหญ่ เป็นงานพิมพ์ที่ใช้กระดาษในการทำ อยู่ที่ว่าจะเลือกใช้กระดาษแบบไหนในการทำ ซึ่งการเลือกใช้กระดาษมาพิมพ์งานเมนูอาหารนั้นต้องดูความเหมาะสมของรูปแบบเมนูอาหารที่จะทำด้วย ซึ่งในการรับทำเมนูอาหารนั้น กระดาษส่วนใหญ่ที่ใช้เลยก็จะเป็น

กระดาษอาร์ตการ์ดที่มีความหนาตั้งแต่ 190 – 350 นั้นเอง

กระดาษการ์ดขาวที่มีความหนาตั้งแต่ 190 แกรมขึ้นไป

กระดาษแฟนซีหรือกระดาษพิเศษอื่นๆ

เช่น

งานพิมพ์เมนูอาหารแบบเย็บมุงหลังคา / เย็บแม็ค กระดาษตัวปกและเนื้อในที่ใช้พิมพ์ส่วนใหญ่อาจจะใช้เป็นกระดาษแบบเดียวกัน หรือเนื้อในบางกว่าปกเล็อกน้อย หากมีจำนวนไม่เกิน 8 หน้ารวมปก สามารถใช้กระดาษที่มีความหนาได้มากสุดถึง 350 แกรม แต่ถ้าหากมีจำนวนหน้าเยอะจะต้องลดความหนาของกระดาษลง ถ้าหากว่าเราไม่มีความรู้เรื่องกระดาษที่ใช้ทำหรือไม่รู้ว่าจะเลือกใช้กระดาษแบบนั้นมาทำสามารถสอบถามผู้ที่รับทำเมนูอาหารหรือสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางอินเติร์เน็ต

นามบัตรดูธรรมดาเกินไป ทำยังไงดี???

ลงทุนทำนามบัตร ออกมาใช้ทั้งทีจะพิพม์อย่างเดียว นามบัตรที่ได้ออกมานั้นดูธรรมดาเกินไป เหมือนของคนนั้นคนนี้เต็มไปหมด จะทำยังไงดีให้นามบัตรของเราดูสวยกว่าของคนอื่น ปัญหานี้เบาบางลงไปด้วยเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์นั้นเอง ซึ่งก็มีมากมายหลายวิธี แต่ที่จะนิยมใช้กันและมีให้เลือกใช้ตามร้านหรือผู้ที่ให้บริการรับพิพม์นามบัตร ก็จะมี

1.การเคลือบลามิเนต ซึ่งการเคลือบนั้นก็จะมีทั้งแบบมันเงาและแบบด้าน ชอบแบบไหนก็เลือกกันได้เลยการเคลือบมัน/เงา นั้นนามบัตรที่ได้ออกมาเนื้อผิวงานจะมันเงาขึ้นสมชื่อกับที่เรียกว่าเคลือบมัน/เงา นั้นเอง ส่วนการเคลือบด้านเวลาที่ดูด้วยตาเปล่าหรือเวลาสัมผัสจะรู้สึกด้านๆไม่เงางับและสีงานจะดร็อปหรืออ่อนลงเล็กน้อย

2.Spot UV เป็นการเคลือบเหมือนกันแต่เรียกว่าการเคลือบเฉพาะจุด บริเวลณที่มีการ Spot UV นั้นจะนูนขึ้นมาจากเนื้อกระดาษเล็กน้อยเงาวับ ดูสวยงามเฉพาะจุดที่ทำการ Spot UV

3.การไดคัท นามบัตรที่ผู้ให้บริการรับพิมพ์นามบัตรมีการทำกันเยอะๆนั้น สวยมากจะเป็นการไดคัทมุมมนของนามบัตรไม่ว่าจะ 4 มุม 2 มุม แตกต่างกันไป และการไดคัทนั้นสามารถทำได้หลายแบบหลายรูปตามที่ลูกค้าต้องการเลย

4.ปั๊มฟอยล์ การปั๊มฟอยล์นั้นจะมีหลายสีเลยแต่ที่นิยมกันก็จะเป็น ฟอยล์เงินและฟอยล์ทอง อาจจะปั๊มเฉพาะส่วนแค่ตัวโลโก้อย่างเดียว เพื่อต้องการความโดดเด่นนั้นเอง

5.ปั๊มนูน การปั๊มนูนนั้นนิยมใช้กับส่วนที่เป็นโลโก้มากกว่าการปั๊มนูนตัวหนังสือทั้งหมด เพื่อความโดดเด่นของโลโก้และประหยัดงบประมาณในการทำ

สติ๊กเกอร์งานพิมพ์ที่สามารถบนสิ่งของต่างๆได้ด้วยตัวของมันเอง

 

      งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ตามร้านหรือทุกที่ที่มีการรับพิมพ์สติ๊กเกอร์นั้น เป็นงานพิมพ์ที่สามารถนำไปติดกับวัสดุอื่นๆได้โดยไม่ต้องไปทากาวเพิ่มเหมือนกับงานพิมพ์กระดาษแบบอื่นๆ โดยตัวงานพิมพ์สติ๊กเกอร์หรือกระดาษสติ๊กเกอร์นั้น จะมีส่วนประกอบๆหลัก อยู่ 4 ส่วนได้แก่

1.ผิวหน้าหรือชั้นบนสุด ในส่วนชั้นบนสุดนี้จะเป็นส่วนที่รองรับลวดลายสีสันต่างๆ ที่ต้องการพิมพ์ลงบนกระดาษสติ๊กเกอร์ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเนื้อกระดาษสีขาว

2.ชั้นกาว เป็นส่วนที่ทำให้งานพิมพ์สติ๊กเกอร์สามารถนำไปติดลงบนวัสดุต่างๆได้

3.กระดาษรองคือแผ่นกระดาษท้ายสุด จะมีหลายแบบหลายสีแต่แต่ชนิดและระดับคุณภาพของสติ๊กเกอร์

4.สารเคลือบบนกระดาษรอง ในส่วนเป็นตัวที่ทำให้กระดาษรองแผ่นหลังสุดกับชั้นกาวสามารถลอกดึงออกจากกันได้ โดยที่ชิ้นส่วนแต่ละชั้นไม่ฉีกขาด

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมงานพิมพ์สติ๊กเกอร์จึงสามารถนำไปติดลงบนวัสดุต่างๆได้ เพราะฉะนั้นหากสนใจที่จะทำงานพิมพ์ต่างๆเพื่อที่จะนำไปใช้ติดกับวัสดุหรือสิ่งของต่างๆ งานพิมพ์สติ๊กเกอร์จึงเป็นอีกงานนึงที่หน้าสนใจ ผู้ที่ให้บริการรับพิมพ์สติ๊กเกอร์ก็มีให้เลือกใช้บริการหลายที่ในปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรที่จะงานพิมพ์สติ๊กเกอร์ขึ้นมาสักชิ้นนึง

การออกแบบสติ๊กเกอร์โลโก้ และสติ๊กเกอร์สินค้า

งานสติ๊กเกอร์โลโก้และสติ๊กเกอร์สินค้านั้น มีการสั่งทำกันอยู่มากและการรับทำสติ๊กเกอร์นั้น ก็จะรวมไปถึงการออกแบบสติ๊กเกอร์โลโก้และสติ๊กเกอร์สินค้าด้วยนั้นเอง เพราะไม่สะดวกที่จะออกแบบเอง ผู้ที่รับทำสติ๊กเกอร์พร้อมรับออกแบบงานจึงเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจ การจะออกแบบสติ๊กเกอร์โลโก้หรือสติ๊กเกอร์สินค้านั้น สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงก็จะมี

1.จุดเด่นของสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ หาจุดเด่นให้เจอเพื่อจะนำมาทำเป็นโลโก้หรือแบรนด์ของตัวเองนั้นเอง

2.หาคาแร็กเตอร์หรือสิ่งที่จะนำมาเป็นตัวแทนของสินค้าและแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ

3.การนำไปใช้งาน ต้องดูความเหมาะของการนำไปใช้งานด้วยว่าทำสติ๊กเกอร์ออกมาแล้ว จะนำไปใช้ไปติดกับอะไร จะได้มีการออกแบบขนาดของงานได้ถูก

4.เลือกใช้สีสันให้ดูโดดเด่น สวยงาม และเข้ากับตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์

5.การออกแบบสติ๊กเกอร์ โดยเฉพาะสติ๊กเกอร์ที่จะต้องมีการไดคัทเป็นรูปร่างๆต่าง นั้น ควรจะออกแบบโดยเผื่อขอบไว้สำหรับเวลาทำการตัดและไดคัทด้วย

6.เลือกใช้สีให้เหมาะวัสดุที่จะนำไปติด เช่น หากต้องการทำสติ๊กเกอรืแบบใสแล้วนำไปติดกับวัสดุที่เป็นขวดผลิตภัณฑ์ที่มีสีเข้ม ตัวสติ๊กเกอร์โลโก้หรือสติ๊กเกอร์สินค้าที่ทำควรจะปรับสีให้เข้มขึ้นและ ออกแบบฟ้อนท์ตัวหนังสือให้หนาเล้กน้อยเพราะเวลาไปติดกับวัสดีที่จะมีเข้มจะได้เห็นลวดลายบนสติ๊กเกอร์ได้ชัด

7.ก่อนการพิมพ์งานจริง ควรให้ทางผู้ที่รับทำสติ๊กเกอร์ ทำการทดลองพิพม์หรือ test สีก่อนการพิมพ์จริงให้ดูก่อน เพราะถ้าหากว่าสีที่ได้มานั้นเข้มหรืออ่อนเกินไปก็สามารถปรับได้ก่อนที่จะพิมพ์จริง

เทคนิคหลังการพิมพ์เพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับการ์ดแต่งงาน

          การ์ดแต่งงานเป็นส่วนหนึ่งของงานแต่งงาน และงานแต่งงานก็เป็นงานสำคัญอีกงานหนึ่งสำหรับใครหลายๆคน ดังนั้นเมื่อการ์ดแต่งงานเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเจ้าของงานแต่ง เสียค่าทำการ์ดแต่งงานให้กับผู้ที่รับพิมพ์การ์ดแต่งงานไปแล้วก็อยากจะให้การ์ดนั้นออกมาดีที่สุด และเป็นอะไรที่พิเศษ ซึ่งเทคนิคหลังการพิมพ์เพื่อเพิ่มความพิเศษและสวยงามให้กับการ์ดแต่งงาน ได้แก่

1.การเคลือบ PVC หรือเคลือบลามิเนต มีทั้งแบบเงาและแบบด้าน

2.การเคลือบ Spot UV เป็นการเคลือบเฉพาะจุดให้ดูเด่นขึ้นมาหรือเวลาที่สัมผัสโดนในส่วนที่มีการ Spot UV จะรู้สึกได้ว่านูนขึ้นมาจากเนื้อกระดาษในส่วนอื่นๆ

3.ปั้มฟอล์ยไม่ว่าจะเป็น ฟอล์ยเงินหรือฟอล์ยทองเวลาทำออกมาแล้วจะทำให้การ์ดดูหรูหรามากขึ้น

4.การไดคัท หรืองานไดคัทมีทั้งแบบที่ใช้เครื่องไดคัทและการขึ้นบล็อก จะไดคัทเป็นรูปร่างหรือรูปทรงต่างๆตามที่ต้องการ

5.การพับ ไม่ว่าจะเป็นพับ 1 หรือพับ 2

เทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์ที่นิยมใช้กันสำหรับการทำการ์ดแต่งงาน ก็จะมีประมาณนี้แต่ถ้าหากว่าสนใจหรืออยากได้ข้อมูลวิธีอื่นๆเพิ่มเติมอีกเวลาที่ติดต่อกับผู้ที่รับพิมพ์การ์ดแต่งงานก็สามารถสอบถามข้อมูลโดยตรงได้เลย

การเพิ่มความสวยงามและเพิ่มมูลค่าให้กับงานพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์

             งานกล่องบรรจุภัณฑ์การสั่งทำและรับทำกล่องบรรจุภัณฑ์กันอย่างมาก เพราะธุรกิจสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆมีเยอะไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจเครื่องสำอาง อาหารสำเร็จรูป ของใช้ สินค้าพรีเมี่ยม เป็น ซึ่งแต่ละอย่างก็ต้องใช้กล่องบรรจุภัณฑ์ในการใส่สินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่พิมพ์ปกติก็ดูจะธรรมดาเกินไป ไม่โดดเด่น ยิ่งสินค้าเหมือนกันมีการแข่งขันกันสูง ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ยิ่งต้องดูโดดเด่น และไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าและให้เป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภคนั้นเอง ดังนั้นในการทำงานสื่อสิ่งพิมพ์ จึงมีเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับกล่องบรรจุภัณฑ์อยู่หลายอย่าง แต่ที่นิยมทำกันก็จะมี

1.การเคลือบลามิเนตทั้งแบบมันและด้าน นอกจากจะทำให้ตัวงานพิมพ์ดูมันเงาหรือออกด้านตามชนิดที่ทำแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกล่องบรรจุภัณฑ์ด้วย โดยจะเป็นการเพิ่มความทนทานและป้องกันการฉีกขาดให้กับกล่องบรรจุภัณฑ์

2.การเคลือบ Spot UV หรือเคลือบเฉพาะจุด จะทำให้ตัวหนังสือหรือข้อความที่ spot Uv ดูโดดเด่นขึ้น

3.ปั้มฟอยล์เงิน/ทอง แต่ถ้าหากทำการปั้มไม่ดีตัวฟอยล์จะไม่ติด ทำให้งานออกมาไม่สวยแต่เลอะเทออะ

4.การปั้มนูน/ปั้มลึก ในการรับทำกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นการปั้มนูนจะนิยมทำในส่วนของโลโก้ เพราะต้องการให้เกินความโดดเด่น และเป็นตัวชูแบรนด์ของสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ

ข้อดีและข้อเสียของงานพิมพ์สติ๊กเกอร์กระดาษ Sticker

          งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ที่มาจากสติ๊กเกอร์กระดาษนั้น มีการนิยมใช้และจากผู้บริโภคสินค้าและทางผู้รับพิมพ์สติ๊กเกอร์เยอะพอสมควร เพราะมีความเหมาะสมกับการนำไปใช้งานและ ราคาไม่ค่อนสูงมากเมื่อเทียบกับสติ๊กเกอร์ชนิดอื่นๆ ซึ่งสติ๊กเกอร์กระดาษก็จะมีหลายชนิด เช่นสติ๊กเกอร์กระดาษขาวเงา/ด้าน ส่วน

ข้อดีของสติ๊กเกอร์กระดาษก็คือ             

*สามารถโดนน้ำได้ 40%                

*สามารถทนความร้อนได้ถึง 90 องศา    

*แกะใช้หรือลอกใช้ง่าย

 

ข้อเสีย

*ไม่สามารถนำไปใช้เป็นงานที่โดนน้ำโดยตรงได้

*ฉีกขาดง่ายเมื่อเทียบกับเนื้อสติ๊กเกอร์แบบอื่นๆ 

จากข้อดีและข้อเสียข้างต้น ดังนั้นในการรับพิมพ์งานสติ๊กเกอร์แบบกระดาษนั้น งานที่นิยมสั่งทำกันก็จะเป็นเป็นประเภท สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า สติ๊กเกอรืบาร์โค้ด สติ๊กเกอร์โลโก้เพื่อใช้ติดสินค้าหรือผลิตภัณฑ์กระปุกครีม ขวดครีม ซึ่งจะไม่โดนน้ำโดยตรง

 

ประโยชน์ของงานพิมพ์ป้ายแท็ก(Tag)สินค้า Tag Label

            การลงทุนทำอะไรสักอย่าง ผู้ที่จัดทำต้องคำนึงถึงประโยชน์ของสิ่งนั้นๆว่าได้อะไรบ้างดังนั้นมาดูกันว่า ป้ายแท็กสินค้า ป้ายราคา Tag Label Hang Tag นั้นมีประโชยน์อะไรกันบ้าง

1.ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่จดจำแก่บุคคลทั่วๆไป

2.ต้นทุนต่ำ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วในการรับพิมพ์ป้ายแท็กต่างๆนั้น จะนิยมทำมาจากกระดาษและมีขนาดเล็ก พิมพ์สีปกอาจจะ 1 หน้า หรือ 2 หน้า ตามความต้องการของลูกค้า คือพิมพ์ปกติธรรมดาทำให้มีราคาไม่สูงมาก

3.สามารถใช้เป็นสื่อในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ได้ คือสามารถเพิ่มโฆษณาแฝงลงไปได้ด้วยนั้นเอง

4.สามารถใช้ดึงดูดความสนใจได้ โดยเฉพาะตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดต่างๆ นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว ป้ายแท็กสินค้า Tag Label ต่างๆ ที่มีการรับพิมพ์ป้ายแท็กนั้น งานพิมพ์ที่สวยและไม่เหมือนใครสามารถกลายเป็นของสะสมได้

การออกแบบงานพิพม์เมนูอาหารและเครื่องดื่มให้หน้าใช้งาน

ในการออกแบบงานพิมพ์เมนูอาหารนั้น ต้องทำออกมาให้ดี สวย และสมบูรณ์แบบที่สุด เพราะถือเป็นน่าตาและเป็นสิ่งต้นๆเลยก็ว่าได้ที่นักชิมทั้งหลายจะต้องเจอ เมนูอาหารที่สวยงาม มีรูปอาหารประกอบที่ดูน่ากิน จะช่วยเพิ่มความต้องการในการกินมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นในการออกแบบงานพิมพ์เมนูอาหาร จึงต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย

1.มีการจัดหมวดหมู่ ประเภทของอาหารให้เหมาะสม เช่น อาจจะเริ่มจากอาหารว่าง แล้วจึงเป็นอาหารจานหลัก และเป็นประเภทของหวาน และท้ายสุดก็อาจจะเป็นรายการเครื่องดื่มต่างๆ

2.เลือกขนาดของงานพิมพ์เมนูอาหารให้เหมาะสม ไม่เล็กและใหญ่จนเกินไปเพราะจะทำให้ถือและเปิดอ่านลำบาก โดยที่ขนาดมาตราฐานหลักๆแล้ว ขนาดสำเร็จของเมนูอาหารก็จะประมาณ A-3 ถึง A-5

3.เลือกใช้ฟอนต์ ตัวอักษรให้ดูชัดเจนและอ่านง่าย เข้าใจง่าย ไม่ลายตา และข้อความที่ใช้ต้องถูกต้อง

4.รูปภาพประกอบต้องเกี่ยวข้องกับรายการอาหารนั้นๆ รูปภาพอาหารที่สวยงามน่าทาน จะช่วยทำให้นักชิมทั้งหลายอยากทานอาหารนั้นๆเพิ่มขึ้น

5.ออกแบบให้เรียบง่าย ไม่ต้องอะไรมากมาย แต่ดูเรียบร้อยไม่ยุ่งเหยิง น่าสนใจ

6.เลือกวัสดุในการทำงานพิมพ์เมนูอาหาร วัสดุที่ดีส่งผลให้งานออกมาดี

ไอเดียการทำนามบัตรเจ๋งๆ

         งามพิมพ์นามบัตร Name Card พบเห็นได้ทั่วไปที่มีการสั่งทำและรับพิมพ์นามบัตรนั้นส่วนใหญ่ก็มีทรงสี่เหลี่ยม พิมพ์ 1 หน้าหรือ หน้า-หลัง ส่วนข้อความบนนามบัตรนั้นก็จะมี ชื่อ-เบอร์ติดต่อ-ตำแหน่ง-และชื่อหรือโลโก้บริษัท ฯลฯ ดูแล้วเหมือนกันไปหมด ดังนั้นเรามาดูไอเดียการทำนามบัตรแบบเจ๋งๆ ที่แตกต่างออกไปไม่เหมือนใครกันว่าจะมีแบบไหนบ้าง

1.นามบัตรแบบผ้า เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่อยู่ในธุรกิจการทำเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มต่างๆ โดยการปักข้อความลงไปบนผ้า และมีการเย็บเป็นรวดลายต่างๆลงไปด้วยก็ได้

2.นามบัตรแบบกินได้ ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเหมาะกับธุรกิจอาหาร ของกินต่างๆ เช่นนามบัตรคุ๊กกี้ แต่นามบัตรแบบนี้อายุการใช้งานอาจจะอยู่ได้ไม่นาน หมดอายุไปก่อนหรือโดนไปซะก่อน

3.นามบัตรแบบที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์แบบอื่นได้จริง เช่น กระดาษรองแก้วกาแฟ

4.นามบัตรที่สามารถแยกออกจากกันได้ ใช้การฉีกปรุเพื่อดึงนามบัตรให้แยกออกจากกันได้

5.นามบัตรแบบรูปภาพหรือรูปถ่าย ใช้รูปภาพของตัวเองไปเลยก็ได้ แล้วก็ใส่ชื่อ เบอร์โทรต่างๆลงไปใต้ภาพ

6.ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เช่น นามบัตรแบบ QR Code แค่ใช้ QR Code ของเราแล้วติดต่อหาร้านรับพิมพ์นามบัตรแล้วออกแบบงานโดยใส่ QR Code ของเราเข้าไป เพราะเดี๋ยวนี้ผู้คนใช้โชเชียลในการสื่อสารค่อนข้างเยอะ ดังนั้นวิธีการนี้ก็เข้าท่าไปอีกแบบ รู้จักเปลี่ยนแปลงและรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย

งานพิมพ์ใบปลิวดูธรรมดาเกินไป ทำยังไงดี??

เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับผู้ที่ทำงานใบปลิว เมื่องานที่พิมพ์ออกมาแล้วดูธรรมดาเกินไป ไม่หน้าอ่านเอาซะเลย หากถามทางผู้ที่รับพิมพ์ใบปลิว เราก็จะได้ตัวช่วยที่สามารถทำให้งานพิมพ์ใบปลิวของเรานั้นดูน่าสนใจขึ้นมา

ซึ่งตัวช่วยที่ว่านั้นก็คือการใช้เทคนิคทางการพิมพ์เข้ามาช่วยเสริม แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำใบปลิวเพิ่มขึ้นมาด้วย เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

-การเคลือบ PVC ด้าน/มัน พิมพ์ใบปลิวออกมาแล้วงานดูไม่เงาวิ้ง สมใจก็สั่งเคลือบ PVC หรือเคลือบมันไปเลย หรืออยากได้งานพิมพ์ใบปลิวออกมาดูแล้วให้ความรู้สึกด้านๆหน่อย ก็จัดการสั่งเคลือบ PVC ด้านไป ซึ่งการเคลือบพลาสติก PVC ด้าน/มัน นั้นจะทำให้งานทีความหนาขึ้นมาเล็กน้อย

-การไดคัท ตัดมุมหรือไดคัทออกมาเป็นรูปร่างต่างๆ ก็สามารถทำได้

-การเคลือบ Spot UV หรือเคลือบเฉพาะจุด

การใช้เทคนิคในการพิมพ์งานข้างต้นอาจจะเป็นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพระาที่จริงแล้วมีค่อนข้างมาก แต่การทำงานพิมพ์ใบปลิวนั้น ที่นิยมรับพิมพ์ใบปลิวกันจะไม่ค่อยใช้เทคนิคในการพิมพ์เพิ่มเติมเท่าไหร่นอกจากการพิมพ์ 4 สีตามปกติ เพราะจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายและ งานพิพม์ใบปลิวส่วนใหญ่นั้น ก็จะแจกๆทั่วไปหากลงทุนเยอะ ผลที่ได้กลับมาอาจจะไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

งานพิมพ์คูปอง ทำไมต้องมีรันนัมเบอร์

       ร้านรับพิมพ์คูปองส่วนใหญ่ จะมีการแจ้งกับผู้ที่ต้องการทำงานพิมพ์คูปองอยู่เสมอว่า เราสามารถทำคูปองแบบรันนัมเบอร์ได้นะ Run Number สำหรับคนที่นึกภาพไม่ออกก็คือ บนตัวคูปองนั้นจะมีตัวเลขกำกับอยู่ สมมุติว่าคูปอง 1 เล่มมีจำนวน 50 ใบก็จะมีตัวเลขกำกับอยู่ทุกใบก็คือ ใบที่ 1 อาจจะมีตัวเตัวกำกับอยู่ตรงหัวมุม 001

ใบที่ 1 ก็มีตัวเลขกำกับ 002 เรียงกันไปจนถึง 050 เป็นต้น คูปองที่มีการรันตัวเลขบนคูปองนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคูปองพวก บัตรหรือตั๋วคอนเสิร์ต คูปองเข้าชมงานต่างๆ หรือจะเป็นในส่วนของคูปองส่วนลดต่างๆก็ได้ การที่มีตัวเลขกำกับหรือ run number บนคูปองนั้นเพื่อที่จะให้สามารถเช็คจำนวนการใช้งานว่าใช้ไปหรือแจกจ่ายไปจำนวนเท่าไหร่กี่ใบแล้ว และยังสามารถใช้เช็คผลตอบรับของการแจกจ่ายคูปองได้ว่า การที่แจกออกไปแล้วนั้น มีผู้ที่นำกลับมาใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ เป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วร้านที่รับพิมพ์คูปองหรือผู้ที่ให้บริการรับผลิตคูปองนั้นจะทำการพิมพ์ตัวเลขรันนัมเบอร์ได้เกือบทุกที่ เหมือนว่าถ้าหากทำคูปองก็ต้องพิมพ์ตัวเลขรันนัมเบอร์ได้เหมือนเป็นของคู่กัน

ข้อจำกัดในการทำงานพิมพ์โปสเตอร์ Poster

          งานพิมพ์โปสเตอร์ Poster ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลหรือข่าวสารได้อย่างละเอียดครบถ้วน ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่และรูปแบบของขนาดของงาน ประกอบกับผู้ที่พบเห็นจะใช้เวลาไม่มากในการมอง หรือมองแบบผ่านๆ ซึ่งขณะเดียวกันคนดูเองก็ไม่ได้ที่จะสนใจกับการหยุดอ่านข้อความตามสถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะในเวลารีบเร่งต่างๆ เช่นช่อวงเวลาในการเดินทางตามท้องถนน ซึ่งถ้าโปสเตอร์นั้นทำขึ้นมาไม่สะดุดสายตาผู้พบเห็นได้มากพอ ก็จะไม่มีใครสนใจรายละเอียดของโปสเตอร์อีก
           จะเห็นว่าการทำโปสเตอร์นั้นแม้จะดูเป็นเรื่องง่ายแต่การที่จะให้ได้ประโยชน์ผลตอบรับกลับมา ที่จะให้ผู้ที่พบเห็นสนใจ รับรู้ในข้อความที่ได้นำเสนอไปนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายเลย และยิ่งถ้าเป็นการทำโปสเตอร์สำหรับการโฆษณาด้วยแล้ว ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ดังนั้นการทำงานพิมพ์โปสเตอร์นั้น ต้องทำให้ออกมาต่างออกไปจากคนอื่นด้วยจะได้ไม่ซ้ำเดิมๆ และเป็นที่น่าสนใจของผู้พบเห็น

งานพิมพ์สติ๊กเกอร์พีพี

            งานพิมพ์สติ๊กเกอร์พีพีมีหลายแบบ ทั่วไปแล้วนิยมใช้กันอยู่ 2 ประเภท คือสติ๊กเกอร์พีพีขาวด้านหรือ Sticker PP Matt เนื้อสติ๊กเกอร์เป็นสีขาว และสติ๊กเกอร์พีพีขาวมุข เป็นขาวมุก เวลาพิมพ์ออกมางานพิมพ์จะมีสีสวยงาม สามารถโดนน้ำ แช่น้ำได้ 100% โดยไม่เปื่อยหรือฉีกขาด และสามารถทนความร้อนได้ ที่อุณหภูมิประมาณ 70-90 องศาเซลเซียส เนื้อสติ๊กเกอร์มีความทนทานสูง ฉีกไม่ขาด สามารถกันน้ำได้ และ มีราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากวัตถุดิบไม่ใช่กระดาษ

งานพิมพ์สติ๊กเกอร์พีพี (Sticker PP) ใช้ทำป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ภายนอก เช่น ไวนิล หรือโปสเตอร์ได้เพราะเนื้อสติ๊กเกอร์นัน้จะมีความเหนียวและทนทาน โดนแดด ลม หรือสภาพแวดล้อมภายนอกได้ สติ๊กเกอร์ติดรถยนต์ สติ๊กเกอร์ติดถังต่างๆ

ขั้นตอนในการเตรียมงานทำงานพิมพ์ใบปลิว 2

4.กำหนดช่องทางการแจกจ่ายงานพิมพ์ใบปลิว
ทำ การกำหนดช่องทางการแจกจ่ายใบปลิวให้ถึงมือผู้รับ ไม่ว่าจะเป็นการเดินแจกตามสถานที่ต่างๆ หน้าร้าน ห้างสรรพสินค้า หรือส่งทางไปรษณีย์ถึงลูกค้าโดยตรงแต่การส่งไปรษณีย์นั้นต้องมีข้อมูลที่ อยู่ของลูกค้าที่ชัดเจน
5.กำหนดความคาดหวังที่จะได้รับ
การกำหนด เป้าหมายผลตอบรับที่จะได้กลับมาหลังจากทำการแจกจ่ายงานพิมพ์ใบปลิวออกไปแล้ว ผลตอบรับจากทุกช่องทางที่ทำการแจกจ่ายไป ว่าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือเปล่าการลงทุนไปจะไม่เสียเปล่าและก่อให้ เกิดประโยชน์
6. กำหนดรูปแบบ และจำนวนการใช้งาน
หากไม่รู้ว่าจะทำ งานออกมาในรูปแบบไหน สามารถหาตัวอย่างได้ตามท้องตลาดหรือง่ายที่สุดก็คือ การหาตัวอย่างงานในเว็บไซต์หรืออินเทอร์เน็ต แล้วนำมาปรับเปลี่ยนตามความต้องการ สีสันของงานการออกแบบ ออกแบบให้สวยงาม สะดุดตาผู้อ่าน ใช้ความที่น่าสนใจ  และต้องกำหนดจำนวนงานที่จะใช้จริงด้วย อาจจะมีการเผื่อจำนวนไว้เล็กน้อย เพื่อให้เพียงพอกับการใช้งาน และเป็นการประหยัดค่าใช้ในการพิมพ์ใบปลิว
 

งานพิมพ์บัตรกำนัล Gift Voucherคูปองเงินสด

              งานพิมพ์บัตรกำนัล, Gift Voucher, ถือเป็นงานพิมพ์คูปองเช่นเดียวกับคูปองเงินสด ทำขึ้นมาเพื่อสำหรับแจกขอบคุณลูกค้า สามารถใช้แทนเงินสด Gift Voucher สำหรับร้านสปา หรือ ร้านอาหาร ทำเป็นโปรโมชั่น แจ้งสิทธิพิเศษ พร้อมทั้งเงื่อนไขการในใช้บัตรกำนัล, Gift Voucher, คูปองเงินสด และช่วยกระตุ้นยอดขายเหมาะสำหรับร้านอาหาร ร้านสปา สถาบันความงาม ฟิตเนต หรือแม้กระทั่งธุรกิจโรมแรมก็จะมีโปรโมชั่นห้องพักต่างๆออกมา

ขนาดมาตรฐานของบัตรกำนัล, Gift Voucher, คูปองเงินสด2.5x6 นิ้ว, 3.*7 นิ้ว กระดาษของบัตรกำนัล, Gift Voucher, คูปองเงินสด คือ กระดาษอาร์ตมัน, อาร์ตการ์ด หรือ กระดาษปอนด์ หรือ กระดาษนอก ลักษณะการพิมพ์คูปองเงินสด บัตรกำนัล, Gift Voucher จะนิยมพิมพ์ 4 สี พร้อมรันเบอร์ 2 จุด มีทั้งแบบพิพม์หน้าเดียว และพิมพ์หน้า-หลัง ลักษณะการเข้าเล่มของบัตรกำนัล, Gift Voucher, คูปองเงินสด คือ ทำเป็นเล่ม หรือ เป็นใบๆ

ข้อดีของงานพิมพ์โบรชัวร์

             งานพิมพ์โบรชัวร์ถูกใช้และมีการรับพิมพ์โบรชัวร์กันอย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการโปรโมตประชาสัมพันธ์ ใช้เป็นสื่อในการส่งเสริมการตลาด เป็นคู่มือประกอบการใช้ใช้งานต่างๆ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีต่างๆในปัจจุบันจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้และใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อการได้อย่างกว้างขวาง ถูกใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจอย่างมากกมาย แต่งานพิมพ์โบรชัวร์ก็ยังถูกใช้ประโยชน์ไม่ได้น้อยไปกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่เลย งานพิมพ์โบรชัวร์มีข้อดีหลากหลาย แต่ถ้ามองเห็นอย่างชัดเจนเลยก็คือ

1.ลูกค้าได้รับข้อมูลสำคัญๆ โดยตรง ซึ่งสามารถแจกจ่ายเจาะจงกลุ่มลูกค้าเฉพาะได้เลย

2.สามารถจับต้องได้ เก็บไว้ได้นาน นำมาเปิดอ่านได้ตลอดตามความต้องการ

3.มีความหน้าเชื่อถือ ตัวโบรชัวร์ถือเป็นงานพิมพ์ที่มีอยู่จริงเป็นลานลักษณ์อักษร

4.ประหยัดต้นทุน ค่าใช้จ่าย

 การทำธุรกิจต่างๆในปัจจุบันมีมากมาย และงานพิมพ์โบรชัวร์ก็ถูกใช้ประโยชน์ให้เป็นสื่ออย่างหนึ่งในทางธุรกิจ ทำให้มีความต้องการในการใช้โบรชัวร์มีพอสมควร และผู้ที่ทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ต่างๆ รับพิมพ์โบรชัวร์ก็มีเยอะไม่ต่างกันในปัจจุบัน

ขั้นตอนในการออกแบบงานพิมพ์การ์ดเชิญ/บัตรเชิญ Invitation

           กำหนดวัตถุประสงค์ ของการพิมพ์การ์ดเชิญหรือบัตรเชิญ ว่าทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ออกแบบให้ดูสวยงามและแปลกตาไม่เหมือนใคร เนื้อหาข้อความหรือรูปภาพที่จะนำมาใส่ลงบนการ์ดเชิญและบัตรเชิญควรจะสอดคล้องกัน หรือว่าถ้าเป็นการ์ดเชิญขององค์กร หรือสินค้าและบริการต่างๆ ข้อความและรูปภาพนั้นก็ควรจะสะท้อนหรือสื่อถึงองค์กร สินค้าและบริการนั้นๆด้วย

            กำหนดรูปแบบ ขนาด และจำนวนที่จะใช้ของการ์ดเชิญหรือบัตรเชิญ หากไม่รู้ว่าจะทำการ์ดออกมาแบบไหน ยังไม่มีไอเดียในการออกแบบงาน ก็ตามสามารถหาดูแบบการ์ดหรือบัตรเชิญได้ตามอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเป็นไอเดียแล้วนำมาดัดแปลกเป็นงานของเตัวเองได้ เช็คจำนวนที่ต้องการใช้ว่าต้องใช้งานเท่าไหร่ให้เพียงพอกับการใช้งาน ไม่ขาดและไม่เกินจนมากเกินไป เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์การ์ดเชิญและบัตรเชิญ โดยสามารถติดต่อกับทางร้านที่รับพิมพ์การ์ดเชิญหรือบัตรเชิญ เพื่อขอทราบราคางานก่อนจะได้จัดสรรค่าใช้จ่ายในการทำได้

            ออกแบบและจัดทำอาร์ตเวิร์ค ในปัจจุบันจะใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ในการออกแบบและจัดทำต้นฉบับ มักใช้ Adobe Photoshop ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดหน้างาน มักใช้ Adobe Indesign, Illustrator, Pagemaker ในการจัดทำต้นฉบับงานพิมพ์การ์ดเชิญและบัตรเชิญ ให้คำนึงถึงภาพที่นำมาวางและการออกแบบให้ดูดี ข้อความกระชับและครบถ้วน หากมีการพับหลายหน้าให้คำนึงถึงความต่อเนื่องและความเข้ากันของแต่ละหน้า ของการ์ดเชิญ บางชิ้นมีการทำไดคัตหรือปั๊มนูน (Embossing) เป็นรูปร่างต่างๆให้ดูแปลกตา บางชิ้นเคลือบพลาสติกด้าน แล้วเคลือบ Spot UV บนภาพที่ต้องการเน้น เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับงานพิมพ์การ์ดเชิญหรือบัตรเชิญ